เคล็ดลับสุขภาพดีกับเมก้าเกม 5 อาหารที่ยิ่งกินยิ่งทำลาย ผนังหลอดเลือด

เคล็ดลับสุขภาพดีกับเมก้าเกม 5 อาหารที่ยิ่งกินยิ่งทำลาย ผนังหลอดเลือด

เคล็ดลับสุขภาพดีกับเมก้าเกม 5 อาหารที่ยิ่งกินยิ่งทำลาย ผนังหลอดเลือด

เคล็ดลับสุขภาพดีกับเมก้าเกม 5 อาหารที่ยิ่งกินยิ่งทำลาย ผนังหลอดเลือด

แพทย์เตือนอาหาร 5 ชนิดที่สามารถทำลายผนังหลอดเลือดได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอาหารที่คนไทยนิยมรับประทาน แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้าระบุว่า ในผนังหลอดเลือดจะมีเซลล์อยู่ เมื่อเซลล์ถูกทำลายลงไปทีละเล็กละน้อย ในผนังหลอดเลือดจะเกิดพังผืดขึ้น และทำให้หลอดเลือดค่อยๆ ตีบมากขึ้นทีละนิดเช่นกัน เมื่อไรก็ตามที่หลอดเลือดตีบมากกว่า 75% นั่นหมายความว่าร่างกายกำลังเกิดอันตราย หากเป็นหลอดเลือดสมอง เสี่ยงอัมพาต หากเป็นหลอดเลือดหัวใจ เสี่ยงหัวใจขาดเลือด หากเป็นหลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงไต เสี่ยงไตวายเรื้อรังนั่นเอง

เมก้าเกมพาคุณมาดู 5 อาหารที่ควรเลี่ยง ทำลายผนังหลอดเลือดอย่างรุนแรง

เมก้าเกมพาคุณมาดู 5 อาหารที่ควรเลี่ยง ทำลายผนังหลอดเลือดอย่างรุนแรง อาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิต นอกจากจะเสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงร่างกาย และทำให้อิ่มท้องนานแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการป่วยหากรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะหรือทานอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบต่อร่างกายมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทานอาหารยอดนิยมที่มีความอร่อยและสะดวกต่อการทานจนลืมความเสี่ยงของอาหาร อาหารที่คนไทยนิยมรับประทาน 5 ชนิดสามารถทำลายเซลล์ผนังหลอดเลือดได้อย่างรวดเร็ว

5 อาหารที่ทำลายผนังหลอดเลือดอย่างรุนแรง

ผนังหลอดเลือดจะมีเซลล์อยู่ เมื่อเซลล์ถูกทำลายลงไปทีละนิด ในผนังหลอดเลือดจะเกิดพังผืดขึ้น ต่อมาจะทำให้หลอดเลือดตีบทีละนิด เมื่อไรก็ตามที่หลอดเลือดตีบมากกว่า 75% หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นหลอดเลือดที่นำไปเลี้ยงสมองก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัมพาต หากเป็นหลอดเลือดที่นำไปเลี้ยงหัวใจก็มีความเสี่ยงหัวใจขาดเลือด หากเป็นหลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงไตก็มีความเสี่ยงไตวายเรื้อรังจนเป็นเหตุให้ต้องฟอกไตตลอดชีวิตหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการทานอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงในการทำลายผนังหลอดเลือด ทางทีมข่าวสดขอสรุป 5 อาหารที่ทำลายผนังหลอดเลือดอย่างรุนแรงตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้

1. อาหารแปรรูป (Processed Food) หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปต่าง ๆ เพื่อลอกเลียนแบบเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อเทียม, หมูเทียม, แฮมเบอร์เกอร์เทียม, เส้นพาสต้า, ครัวซองต์ รวมถึงอาหารมังสวิรัติและอาหารเจที่เป็นผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ ให้หน้าตาคล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์และอาหารประเภทรมควันต่าง ๆ เช่น ไส้กรอกรมควัน แฮม และเบคอน เป็นต้น อาหารแปรรูปดังกล่าวสามารถทำลายเซลล์ผนังหลอดเลือดได้ค่อนข้างมาก แถมยังส่งผลเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเซลล์สมอง เซลล์ไขมัน เซลล์ตับ รวมถึงระบบการเผาผลาญ

2. เครื่องดื่ม 3 in 1 ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ผงโกโก้ หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่มักมีส่วนผสมของน้ำตาลและครีมเทียมสูง ซึ่งส่งผลต่อเซลล์ต่าง ๆ ของผนังหลอดเลือด เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายได้รับครีมเทียมมากเกินพอดี ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) ได้ง่ายพร้อมก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมาย เช่น โรคทางสมอง หัวใจ หลอดเลือด ไต รวมถึงอาจเสี่ยงภาวะเบาหวาน ตามด้วยไขมัน ความดัน หัวใจ หลอดเลือด และไตวายเรื้อรัง ซึ่งทางหมอท๊อปแนะนำว่า สามารถดื่มได้ แต่อย่าบ่อยครั้งหรือรับประทานมากเกินไป

3. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถือเป็นอาหารประเภท Ultra-processed food ซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูปมาค่อนข้างมากมาย แถมยังมีแป้ง น้ำตาล และผงชูรสแฝงอยู่ในอาหารจำนวนมาก เมื่อรับประทานอาหารประเภทนี้ในปริมาณมากจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดื้ออินซูลิน พร้อมทั้งทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายพัง หลอดเลือดมีปัญหา เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการอักเสบ และเมื่อไรก็ตามที่เซลล์หลอดเลือดเกิดการอักเสบบ่อย ๆ ก็มีความเสี่ยงหลอดเลือดตีบหรือตันได้

4. ผงชงลดน้ำหนัก ผงโปรตีน และอาหารเสริมต่าง ๆ สำหรับใครที่เป็นผู้ที่ชื่นชอบการลดน้ำหนักแบบหาทางลัด มักจะได้โรคต่าง ๆ ตามมาอย่างไม่คาดคิด หมอท๊อปกล่าวว่า ผงชงลดน้ำหนัก อาหารเสริม ผงโปรตีนเพื่อการลดน้ำหนัก แต่ละยี่ห้อไม่สามารถทราบอย่างแน่ชัดว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง แถมยังเป็นอาหารประเภท Ultra-processed food ซึ่งทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอักเสบ ตีบตันรวมถึงกระตุ้นให้อินซูลินหลั่งในปริมาณเยอะมาก ๆ เหตุผงละเอียดต่าง ๆ มักดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเร็ว ทำให้อิซูลินในเลือดเพิ่มขึ้นสูงและลดลงอย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่า Insulin Spike จากนั้นจะเกิดความเสี่ยงต่อภาวะดื้ออินซูลินเช่นกัน

5. น้ำผลไม้ น้ำอัดลม รวมถึงน้ำอัดลม 0 แคลอรี มีน้ำตาลไม่แตกต่างกันอาจเข้าไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกายได้พร้อมเกิดภาวะดื้ออินซูลินเช่นเคย นอกจากนี้ หมอท๊อปยังกล่าวเสริมอีกว่า มีหลาย ๆ คนเข้าใจผิดคิดว่าการดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรีเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแม้ว่าจะมีปริมาณ 0 แคลอรี แต่ยังมีสารทดแทนความหวานสูง อีกทั้งยังหากร่างกายมี ระบบเผาผลาญทำงานไม่มีประสิทธิภาพก็สามารถทำให้เสียสุขภาพอย่างไรก็ตาม หมอท๊อปแนะนำว่า หากใครอยากดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้แก้กระหายสามารถดื่มได้อาทิตย์ละครั้ง ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เพิ่มเพื่อนสล็อตเมก้าเกม